วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่  16

วันพุธที่  25  เมษายน  พ.ศ. 2561
เวลา 08.30 - 11.30 น.
Knowledge (ความรู้)
  • แจกรางวัลเด็กดี
  • นำเสนอคำคมผู้บริหาร
นางสาวนรากุล ธรรมชาติ

นางสาวพรประเสิรฐ กลับผดุง

นางสาวธารารัตน์ โพธิ์ประสาท
  • นำเสนอโมเดลโรงเรียน
โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
  • หลักการและเหตุผล
         ในศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต ทำให้บุคคลในท้องถิ่นรวมถึงเด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมในการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เด็กขาดทักษะการใช้ชีวิตและขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ผู้คนหลงลืมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และโรงเรียนในพื้นที่มีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
         จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจึงจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้าขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษาที่รองรับจำนวนนักเรียนในพื้นที่ให้เพียงพอกับความต้องการและจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง บูรณาการการสอน 6 กิจกรรมหลัก ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพื่อพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม ให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม
  • วัตถุประสงค์
1.เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ และสถานศึกษาของคนในชุมชน
2.เพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นพลเมืองดี
3.เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานในการใช้ชีวิต 
  1. ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
1.ข้อมูลทั่วไป

ชื่อสถานศึกษา  โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า
ตั้งอยู่เลขที่ 100 /221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถนน ติวานนท์   ตำบล บางพูด  อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 10310 โทรศัพท์ 02 - 3456789
โทรสาร 02 - 3456789
E-mail moonschool@gmail.com website moonschool.co.th
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนที่โรงเรียน
        อาณาเขต 
ทิศเหนือ วัดและโบราณสถาน
ทิศตะวันออก โรงพยาบาล
ทิศตะวันตก สวนสาธารณะ
ทิศใต้ วัดและแหล่งชุมชน

สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน
ประวัติโดยย่อ คำขวัญ และวัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียน
     โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 100/221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 บนที่ดินของนางสาวนรากุล ธรรมชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน มีโครงการที่จะเปิดทำการสอนในระดับชั้นอนุบาล จำนวน 4 ห้องเรียน คือ อนุบาล 1 อนุบาล 2 และ อนุบาล 3   โดยเปิดทำการสอนในปีการศึกษา 2555 รับสมัครนักเรียนชั้นอนุบาล 1 คือเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป 
ปรัชญาของโรงเรียน
เป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้

 วิสัยทัศน์
       โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า เป็นโรงเรียนมีคุณภาพระดับสากล บนพื้นฐานวัฒนธรรมไทย มีระเบียบวินัยที่ดีงาม เน้นความรักสามัคคี มีความรู้คู่กับคุณธรรม ตามหลักปรัชญากิจพอเพียง

คติพจน์
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา
บัญฑิตย่อมฝึกตน

ปณิธาน
เสริมสร้างรักษาสิ่งดีงาม  พยายามแก้ไขสิ่งบกพร่อง

พันธกิจ
  1. สร้างนักเรียนทุกคนให้เป็นเด็กดี มีวินัย มีคุณธรรม 
  2. สร้างทักษะพื้นฐาน จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
  3. ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
  4. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติได้เต็มศักยภาพ
2. ข้อมูลด้านการบริหาร

3.  ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
      เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3
      จำนวนนักเรียนทั้งหมด 60 คน  มีเด็กพิเศษ 2  คน

4. ข้อมูลครูและบุคลากร
การศึกษาปฐมวัย  
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน :  ครู 60/6
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน  : ห้อง 20/2
มีจำนวนครูครบชั้น ครบชั้น     ⬜  ไม่ครบ   ในระดับ

5. ข้อมูลด้านอาคารสถานที่
6.ข้อมูลด้านงบประมาณและทรัพยากร


7. สภาพชุมชนโดยรวม
       สภาพชุมชนโดยรอบโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้ามีลักษณะเป็นชุมชนเมืองมีประชากรประมาณ  5,000  คน บริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียนได้แก่  สวนสาธารณะ  โรงพยาบาล  วัด  โบราณสถาน  บ้านเรือนประชาชน  โรงเรียน  และสถานีตำรวจ
       อาชีพหลักของชุมชนคือค้าขายเครื่องปั้นดินเผา  และของฝากแก่นักท่องเที่ยว  ผู้ปกครองส่วนใหญ่  จบการศึกษาระดับ   ต่ำกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ  80  ประกอบอาชีพค้าขาย  ฐานะทางเศรษฐกิจ / รายได้โดยเฉลี่ย  ต่อครอบครัว  ต่อปี  120,000  บาท ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีสำคัญได้แก่  ประเพณีตักบาตรพระร้อยแปด  ประเพณีสงกรานต์ชาวไทยมอญ
       โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน
โอกาส
  1. ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปกครอง ชุมชน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
  2. โรงเรียนมีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลายมีผลต่อด้านจิตใจของนักเรียน
  3. นักเรียนมีความรักความภูมิใจในท้องถิ่น
  4. บริเวณรอบ ๆ โรงเรียนมีการขยายตัวของภาคธุรกิจมีผลต่อการระดมทรัพยากรของโรงเรียน
  5. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่หลากหลายเอื้อต่อการจัดการศึกษา
  6. เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษามีราคาถูกทำให้จัดหาได้ง่าย
ข้อจำกัด
  1. โรงเรียนอยู่ติดถนนใหญ่ การสัญจรของประชาชนมีจำนวนมาก เกิดปัญหามลภาวะทางเสียง
8. โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรระดับปฐมวัย
ระดับชั้นอนุบาล 1 – อนุบาล 3 (ช่วงอายุ 3 – 6 ปี)
          สาระการเรียนรู้
  1. ประสบการณ์สำคัญ 
  2. สาระที่ควรรู้
ด้านร่างกาย เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
ด้านอารมณ์จิตใจ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
ด้านสังคม         ธรรมชาติรอบตัวเด็ก
ด้านสติปัญญา       สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก

รวม 5 ชั่วโมง / วัน
 1000 ชั่วโมง / ปี

หลักสูตรไฮสโคป (High Scope)
หลักการสอน
        การเรียนการสอนแบบไฮสโคป เน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น เป็นการสร้างองค์ความรู้จากการที่เด็กให้ลงมือจัดกระทำกับอุปกรณ์หรือสิ่งแวดล้อมนี้เป็นประสบการณ์ตรงโดยใช้หลักปฏิบัติ 3  ประการ  คือ
        1. การวางแผน (plan)  เป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติหรือดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย หรือสิ่งที่สนใจด้วยการสนทนาร่วมกันระหว่างครูกับเด็ก  และเด็กกับเด็ก  ว่าจะทำอะไร  อย่างไร  การวางแผนกิจกรรมมีเด็กอาจแสดงด้วยภาพหรือสัญลักษณ์ประจำตัวเด็ก หรือบอกให้ครูบันทึกเป็นกระบวนการที่เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ 
        2. การปฏิบัติ (Do) คือการลงมือทำกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ และทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กำหนดโดยมีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง
       3. การทบทวน (Review) เป็นช่วงที่ได้งานตามจุดประสงค์ ช่วงนี้จะมีการเล่าถึงผลงานที่เด็กทำเพื่อทบทวนว่าตนเอง (เด็ก) สามารถปฏิบัติตามแผนที่วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างไร จุดประสงค์ของการทบทวนคือ เพื่อสะท้อนสิ่งที่เด็กได้ทำ ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างแผนกับการปฏิบัติและผลงานที่ทำ รวมถึงเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้ทำ

9. แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้
1)วัดคูขุด
2)สวนสาธารณะ
3)โรงพยาบาล
4)สถานีตำรวจ
     ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครู นักเรียน ในปีการศึกษาที่รายงาน
  1. นายสำราญ พงศ์วันทอง ให้ความรู้เรื่องขนมไทย สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จำนวน 2 ครั้ง / ปี 
  2. นายสมดุล   จุลจัตุรัส ให้ความรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผา สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จำนวน 2 ครั้ง / ปี
10. ผลงานดีเด่นในรอบปีที่ผ่านมา
- โรงเรียนแกนนำพัฒนาชีวิต
- รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดส้วมสุขสันต์
- โรงเรียนแกนนำโรงเรียนดีศรีจังหวัด
- โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร
- รางวัลโรงเรียนในฝัน
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขันศิลปะหัตกรรมดนตรีนาฏศิลป์
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขัดวาดภาพระบายสี
- เหรียญทองการเล่านิทานการแสดงประกอบสื่อ
- เหรียญทองการปั้นดินน้ำมัน(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการสร้างภาพด้วยการ ฉีก ตัด ปะ(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการประกวดมารยาทไทย


Apply(การประยุกต์ใช้)
  • สามรถนำเอาความรู้ความเข้าใจไปใช้ในการขออนุญาติจัดตั้งสถานศึกษได้
Assessment(การประเมิน)
self :  มีการเตรียมตัวนำเสนอ
friend :  ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
Teacher :  อาจารย์ข้อเสนอแนะเสมอ

วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่  15

วันพุธที่  18  เมษายน  พ.ศ. 2561
เวลา 08.30 - 11.30 น.
Knowledge (ความรู้)

  • นำเสนอคำคมผู้บริหาร
นางสาว สุรีย์พร สมจิตร

นางสาวพัชชา สังข์ทอง

นางสาวธิดารัตน์ สวัยษร

Apply(การประยุกต์ใช้)

  • สามารถนำไปเป็นแนวคิดในการเป็นผู้บริหารหรือใช้ในการดำเนินชีวิตได้

Assessment(การประเมิน)
self : มีความตั้งใจ
friend :  มีความตั้งใจเตรียมตัวมาพร้อม
Teacher :  สรุปประเด็นต่างๆให้ฟัง

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่  14

วันพุธที่  11  เมษายน พ.ศ. 2561
เวลา 08.30 - 11.30 น.

***หยุดเนื่องในวันสงกรานต์***

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่  13

วันพุธที่  4  เมษายน  พ.ศ. 2561
เวลา 08.30 - 11.30 น.
Knowledge (ความรู้)

  • นำเสนอคำคมผู้บริหาร

นางสาวชลนิชา สิงห์คู่

นางสาวพิชญากานต์ นิธิสหกุล

นางสาวเกตุวรินทร์ นามวา
  • กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
  • ความหมายการนิเทศ
  • จุดมุ่งหมายของการนิเทศ

  • เนื้อหาสาระในการนิเทศ

  • กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร

         ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน   ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป

ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ
นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า
          - ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
          - ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
          - ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
          - ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
          - การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน

  •  กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ

  1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา 
  2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย
  3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ
  4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี
  5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์
  6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้
  7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม

  • องค์ประกอบของกัลยาณมิตร

1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน 
2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน
3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน
            + มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน
            + ช่วยกันแก้ปัญหา
             + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน
4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน
            + ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง
            + ปราศจากอคติ
  • กระบวนการกัลยาณมิตร

1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ 
2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ 
3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗
            + หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
            + พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
            + ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา
            + ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน
            + ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา
            + พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง
            + คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ 
4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา 
5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล 
6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง 
7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก
  •  ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ

1. องค์ความรู้ 
2. แรงหนุนจากต้นสังกัด 
3. ผู้บริหารทุกระดับ 
4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา
  • บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ

        กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตามยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบการพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
  • “ คลินิกครู ” มีความจำเป็นสำหรับสถานศึกษา โดยจัดช่วงเวลาที่ครูสมารถมาพบในลักษณะกลุ่มสนใจ หรือตามประเด็นปัญหาที่มีผู้นิเทศสนทนาให้คำแนะนำ โดยเตรียมข้อมูลเพื่อพบปะสนทนากันใน “ คลินิก ” การเข้าใช้บริการ   “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อยตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรในรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศเป็น 3 ลักษณะ คือ

  1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
  2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน
  3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู

          หลักประการสำคัญของกัลยาณมิตรนิเทศ คือเข้าใจวัฒนธรรมการคิดและ การทำการคิดและการทำงานของครู ผู้นิเทศย่อมตระหนักดีว่าครูทำงานหนักและ จำเจ เดิมๆ ซ้ำๆ หากมีใครสักคนเข้ามาดูงานของเขา อาจทำให้เขาเครียด เกร็ง ระมัดระวัง และรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ธรรมดา เพราะเขาคิดว่าต้องมีภาระเพิ่มขึ้น  การทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดการต่อต้าน ผู้นิเทศจึงจำเป็นต้องเริ่มงานด้วยความสัมพันธ์ที่ดี ให้ครูรู้สึกไว้วางใจ พร้อมกับนำกระบวนการนิเทศสอดแทรกกลมกลืนเข้าไปกับภาระงานปกติของครู การเยี่ยมเยียน การติดต่อสื่อสารกับครูควรหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจของการตรวจสอบ 
  • แนวทางการนิเทศ

1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน 
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน 
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ 
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน 
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง 
6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง 
7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส 
8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ 
9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ
  • สรุปประเด็นสำคัญ

        หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศ
กระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์
ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด  ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและ
ปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้องสรุปเป็นบทร้อยกรองว่า

                 ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้
                 เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน
                 ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์
                 นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน 


คลิ๊ก!! เพื่ออ่านเพิ่มเติม
Apply(การประยุกต์ใช้)

  • สามารถนำเอาความรู้ไปใช้ได้ในการอยู่ร่วมกับคนในสังคม

Assessment(การประเมิน)
self : มีการจดบันทึก
friend :  ตั้งใจดี
Teacher :  มีตัวอย่างอธิบายเพิ่มเติม

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่  16 วันพุธที่  25  เมษายน  พ.ศ. 2561 เวลา 08.30 - 11.30 น. Knowledge (ความรู้) แจกรางวัลเด็กดี นำเสนอ...